<< Go Back

        คำอุทาน หมายถึงคำพวกหนึ่งที่เปล่งออกมาแต่ไม่มีความหมาย เป็นเพียงแสดงวามรู้สึกอารมณ์ หรือความต้องการของผู้พูดให้ผู้ฟังทราบ


               หลักภาษาไทยได้แบ่งคำอุทานออกเป็น ๒ ชนิด  ดังนี้
      ๑. อุทานบอกอาการ  คือ  คำที่บอกอารมณ์หรือความรู้สึกต่างๆของผู้พูด  คำอุทานชนิดนี้มักอยู่หน้าประโยค  และมีเครื่องหมายอัศเจรีย์  ( ! )  กำกับอยู่ท้ายคำอุทาน  แบ่งเป็น
                     ๑.๑ อาการร้องเรียกหรือบอกให้รู้ตัว เช่น นี่แน่ะ ! เฮ้ย ! โว้ย !
                     ๑.๒ อาการโกรธเคือง เช่น ดูดู๋ ! ชะๆ ! ชิๆ !
                     ๑.๓ อาการประหลาดใจหรือตกใจ เช่น เอ๊ะ ! ว๊าย ! แม่เจ้าโว้ย !
                     ๑.๔ อาการสงสารหรือปลอบโยน เช่น อนิจจา ! พุธโธ่ !
                     ๑.๕ อาการเข้าใจหรือรับรู้ เช่น เออ ! เออน่ะ ! อ้อ !
                     ๑.๖ อาการเจ็บปวด เช่น โอย ! โอ๊ย !
                     ๑.๗ อาการจากสิ่งธรรมชาติ เช่น ตูม ! โครม ! เปรี้ยง !
       ๒.  คำอุทานเสริมบท เป็นคำอุทานที่ใช้เป็นคำสร้อยหรือคำเสริมบทต่างๆ คำอุทานประเภทนี้บางคำเสริมคำที่ไม่มีความหมายเพื่อยืดเสียงให้ยาวออกไป บางคำก็เพื่อเน้นคำให้กระชับหนักแน่น
                    ๒.๑ มักเป็นคำคู่ที่มีเสียงสัมผัสคล้องจองกัน เช่น
                                       หนังสือหนังหา
                                        อาบน้ำอาบท่า
                                       กินข้าวกินปลา
                   ๒.๒ ไม่นิยมใส่เครื่องหมายอัศเจรีย์ ( ! ) กำกับ
                   ๒.๓ คำสร้อยในบทร้อยกรองก็จัดเป็นคำอุทานเสริมบท ได้แก่คำว่า แฮ เอย เทอญ นา ฤา โอ้ว่า แล เฮย เช่น
                                       เสียงรือเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย

                    ๑. ทำหน้าที่แสดงความรู้สึกของผู้พูด เช่น โธ่ ! เธอคงหนาวมากนะ
                    ๒. ทำหน้าที่เพิ่มน้ำหนักของคำ ซึ่งได้แก่คำอุทานเสริมบท เช่น เมื่อไรลูกจะไปอาบน้ำอาบท่าเสียทีนะ
                    ๓. ทำหน้าที่ประกอบข้อความในคำประพันธ์ เช่น กอ เอ๋ย กอไก่

 



      http://xn--22ceik4cvaj1fxe6bq2rle.blogspot.com/2012/09/blog-post.html
      https://sites.google.com/site/phasathiykhrucin/chnid-khxng-kha-ni-phasa-thiy/khax

<< Go Back