
1. เติม –s ท้ายคำนามได้เลย การเติม –s เวลาที่เราต้องการพูดถึงคำนามที่มีมากกว่าหนึ่ง ส่วนมากเราสามารถเติม –s ไปหลังคำนามได้เลย เช่น ห้างสรรพสินค้า 3 แห่ง จากเดิมที่ใช้ Mall ก็ให้เติม –s ลงไป เป็น Malls แทน ตัวอย่างเช่น
 I heard that Central will renovate three of their shopping malls this year.
 ฉันได้ยินมาว่าเซนทรัลจะทำการปรับปรุงห้างสรรพสินค้า 3 แห่งในปีนี้ล่ะ
2. หากคำนามลงท้ายด้วย ch, s, ss, sh, x, และ z ต้องเติม -es ท้ายคำนั้นๆ
Singular |
Plural |
คำแปล |
bush (บุช) |
bushes (บุช-เชส) |
พุ่มไม้ |
bus (บัส) |
buses (บัส-เซส) |
รถเมล์ |
dress (เดรส) |
dresses (เดรส-เซส) |
ชุดกระโปรง |
church (เชิร์ช) |
churches (เชอร์-เชส) |
โบสถ์ |
3. คำนามที่ลงท้ายด้วย O แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ เติม –s หรือ เติม –es แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าคำไหนเติม –s คำไหนเติม –es ?
คำนามที่ลงท้ายด้วย –o มักจะเติม –s ได้เลย เช่น
 Studio (สตูดิโอ) เปลี่ยนเป็น studios (สตูดิโอส)
 Zoo (ซู) เปลี่ยนเป็น zoos (ซูส)
บางคำที่ลงท้ายด้วย –o จะต้องเติม –es เช่น
Singular |
Plural |
คำแปล |
buffalo (บัฟ-ฟา-โลว์) |
buffaloes (บัฟ-ฟา-โลว์ส) |
ควาย |
domino (ดอ-มิ-โนว์) |
dominoes (ดอ-มิ-โนว์ส) |
โดมิโน่ |
hero (ฮี-โรว์) |
heroes (ฮี-โรว์ส) |
ฮีโร่ |
echo (เอ็ค-โคว์) |
echoes (เอ็ค-โคว์ส) |
เสียงก้อง |
mosquito (มอส-กี-โทว์) |
mosquitoes (มอส-กี-โทว์ส) |
ยุง |
potato (เพอะ-เท-โทว์) |
potatoes (เพอะ-เท-โทว์ส) |
มันฝรั่ง |
tomato (โท-เม-โทว์) |
tomatoes (โท-เม-โทว์ส) |
มะเขือเทศ |
บางคำที่ลงท้ายด้วย –o สามารถเติมได้ทั้ง –s และ –es เช่น
Singular |
Plural |
คำแปล |
cargo (คาร์-โกว์) |
cargos หรือ cargoes (คาร์-โกว์ส) |
คลังสินค้า |
flamingo (ฟละ-มิง-โกว์) |
flamingos หรือ flamingoes (ฟละ-มิง-โกว์ส) |
นกฟลามิงโก้ |
halo (เฮย์-โลว์) |
halos หรือ haloes (เฮย์-โลว์ส) |
รัศมี |
mango (แมง-โกว์) |
mangos หรือ mangoes (แมง-โกว์ส) |
มะม่วง |
motto (ม็อท-โทว์) |
mottos หรือ mottoes (ม็อท-โทว์ส) |
คติ |
tornado (ทอร์-เน-โดว์) |
tornados หรือ tornadoes (ทอร์-เน-โดว์ส) |
ทอร์นาโด |
volcano (โฟล-เค-โนว์) |
volcanos หรือ volcanoes (โฟล-เค-โนว์ส) |
ภูเขาไฟ |
4. คำนามที่ลงท้ายด้วย –y แบ่งเป็น 2 ประเภท คือเติม -s หรือเติม –es แล้วจะรู้ได้ไงว่าเติม –s หรือ –es มีวิธีแยกดังต่อไปนี้
 - ถ้าหน้า –y เป็นสระ –a, -e, -i, -o, -u คำนามตัวนั้นจะต้องเติม –s ค่ะ เช่น
Singular |
Plural |
คำแปล |
monkey (มัง-คิ) |
monkeys (มัง-คิส์) |
ลิง |
birthday (เบิร์ธ-เดย์) |
birthdays (เบิร์ธ-เดย์ส) |
วันเกิด |
key (คีย์) |
keys (คีย์ส) |
กุญแจ |
way (เวย์) |
ways (เวย์ส) |
เส้นทาง |
chimney (ชิม-นีย์) |
chimneys (ชิม-นีย์ส) |
ปล่องไฟ |
 - ถ้าหน้า –y เป็นพยัญชนะ เราต้องตัด y เป็น i แล้วเติม –es ค่ะ เช่น
Singular |
Plural |
คำแปล |
enemy (เอเน-มิ่) |
enemies (เอเนมิ่ส์) |
ศัตรู |
berry (เบร์-ริ่) |
berries (เบร์ริ่ส์) |
ลูกเบอร์รี่ |
duty (ดิว-ทิ่) |
duties (ดิว-ทิ่ส์) |
หน้าที่ |
spy (สปาย) |
spies (สปายส์) |
สายลับ |
library (ไล-แบร-ริ่) |
libraries (ไล-แบร-ริ่ส์) |
ห้องสมุด |
5. คำนามที่ลงท้ายด้วย –f หรือ –fe ให้เปลี่ยนตัว –f หรือ –fe เป็น –v แล้วเติม –es เช่น
Singular |
Plural |
คำแปล |
life (ไลฟ) |
lives (ลายฟส์) |
ชีวิต |
shelf (เชลฟ์) |
shelves (เชลฟส์) |
ชั้นวางของ |
loaf (โลฟ) |
loaves (โลฟส์) |
ก้อนขนมปัง |
thief (ธีฟ) |
thieves (ธีฟส์) |
โจร |
wife (ไวฟ) |
wives (ไวฟส์) |
ภรรยา |
6. คำนามบางคำ เวลาทำให้เป็นพหูพจน์ เราต้องเปลี่ยนรูปคำนั้นทันที เช่น
Singular |
Plural |
คำแปล |
child (ชายลด์) |
children (ชิล-เดริน) |
เด็ก |
tooth (ทูธ) |
teeth (ทีธ) |
ฟัน |
foot (ฟุท) |
feet (ฟีท) |
เท้า |
mouse (เมาส์) |
mice (ไมส์) |
หนู |
man (แมน) |
men (เม็น) |
ผู้ชาย |
7. คำนามบางคำ สามารถใช้รูปเดิมได้ ทั้งเวลาเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ ส่วนมากก็จะเป็นคำที่เกี่ยวกับสัตว์ทั้งนั้น เช่น fish ฟิช (ปลา), deer เดียร์ (กวาง), sheep ชีพ (แกะ)
8. คำนามบางคำเป็นพหูพจน์อยู่เสมอ ง่ายๆ คือ ต้องมี –s หรือ –es ต่อท้ายตลอด ไม่มีไม่ได้ เช่น scissors ซิส-เซอร์ส (กรรไกร), pants แพ้นท์ส (กางเกง), clothes โคลธส์ (เสื้อผ้า), jeans จีนส์ (กางเกงยีนส์), glasses แกลส-เซส (แว่นตา), noodles นู-เดิลส์ (บะหมี่), goods กู้ดส์ (สินค้า)

https://www.dailyenglish.in.th/singular-plural-noun/
|