<< Go Back


ทศนิยม

ทศนิยมนั้นจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราตลอด ไม่ว่าจะเป็นการบอกค่าของเงินที่เราใช้การบอกเวลา บอกหน่วยความยาว ฯลฯ
ทศนิยม หมายถึง ค่าของจำนวนเต็มที่แบ่งออกเป็นสิบส่วน ร้อยส่วน พันส่วน .... เท่า ๆ กัน ซึ่งเขียนได้ในรูปของเศษส่วน

การอ่านทศนิยม

 เลขที่อยู่หน้าทศนิยมเป็นเลขจำนวนเต็ม อ่านเช่นเดียวกับตัวเลขจำนวนเต็มทั่วไป ส่วนตัวเลขหลังจุดทศนิยมเป็นเลขเศษของเศษส่วนซึ่งมีค่าไม่ถึงหนึ่ง อ่านตามลำดับตัวเลขไป เช่น 635.1489 อ่านว่า หกร้อยสามสิบห้าจุดหนึ่งสี่แปดเก้าถ้าเลขจำนวนนั้นไม่มีจำนวนเต็ม จะเขียน 0 (ศูนย์) ไว้ตำแหน่งหลักหน่วยหน้าจุดได้ เช่น .25เขียนเป็น 0.25 ก็ได้

 การเรียกตำแหน่งทศนิยม 

ถ้ามีตัวเลขหลังจุดทศนิยมกี่ตัว ก็เรียกเท่านั้นตำแหน่ง

หลักตัวเลขหน้าจุด หลักตัวเลขหลังจุด

การกระจายทศนิยม

จำนวน 327.35 จะเขียนให้อยู่ในรูปกระจายได้ดังนี้
 อยู่ในหลักร้อย มีค่า 300
 อยู่ในหลักสิบ มีค่า 20
 อยู่ในหลักหน่วย มีค่า 7
 อยู่หลังจุดเป็นตัวแรกเรียกว่าหลักส่วนสิบ ซึ่งมีค่า หรือ 0.3
 อยู่หลังจุดเป็นตัวที่สองเรียกว่าหลักส่วนร้อย ซึ่งมีค่า หรือ 0.05

 ดังนั้น 327.35 อ่านว่า สามร้อยยี่สิบเจ็ดจุดสามห้าหรือสามารถเขียนในรูปกระจายการบวกได้คือ 327.35 = 300 + 20 + 7 + 0.3 + 0.05

ตัวอย่าง

 ทศนิยม 1 ตำแหน่งมี 10 เป็นตัวหาร เทียบกับเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็นสิบ
 ทศนิยม 2 ตำแหน่งมี 100 เป็นตัวหาร เทียบกับเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็นร้อย
 เลขทศนิยมทำให้เป็นเศษส่วนได้โดยการหารด้วย 10 หรือ 100

การปัดเศษทศนิยม มีหลักดังนี้
5.1 ถ้าตัวเลขทศนิยมที่พิจารณา มีค่าตั้งแต่ ขึ้นไป จะปัดทบเข้ากับตัวเลขหน้า เช่น 56.38 = 56.4
5.2 ถ้าตัวเลขทศนิยมที่พิจารณา มีค่าตั้งแต่ ลงมา จะปัดตัวเลขนั้นทิ้งไป เช่น 56.32 = 56.3
5.3 ถ้าตัวเลขทศนิยมที่พิจารณา มีค่าเท่ากับ มีวิธีปัดทศนิยม วิธีคือ
       1.) ถ้าทศนิยมหน้าเลข เป็นเลขคู่ ก็ตัดตัวเลข ทิ้ง เช่น 4.65= 4.6
       2. ) ถ้าทศนิยมหน้าเลข เป็นเลขคี่ ให้ปัดทศนิยมขึ้น เช่น 0.75 = 0.8

 จำนวนตรงข้ามของทศนิยม
 ทศนิยมที่เป็นบวกและทศนิยมที่เป็นลบที่มค่าสัมบูรณ์เท่ากัน จะอยู่คนละข้างของ และอยู่ห่างจาก เป็นระยะเท่ากัน เช่น -1.5 และ 1.5

  • -1.5 เป็นจำนวนตรงข้ามของ 1.5 และ 1.5 เป็นจำนวนตรงข้ามของ -1.5 ,
  • -1.75 เป็นจำนวนตรงข้ามของ 1.75 และ 1.75 เป็นจำนวนตรงข้ามของ -1.75
  • ถ้า เป็นทศนิยมใด ๆ จำนวนตรงข้ามของ มีเพียงจำนวนเดียวเขียนแทนด้วย -และ a + ( - a ) = ( - a ) + a = 0 
    จำนวนตรงข้ามของ -1.75 เขียนแทนด้วย - ( - 1.75 )
    จำนวนตรงข้ามของ -1.75 คือ 1.75 เนื่องจากจำนวนตรงข้ามของ -1.75 มีเพียงจำนวนเดียว ดังนั้น -( -1.75 ) = 1.7 
    ถ้า เป็นทศนิยมใด ๆ จำนวนตรงข้ามของ - คือ และเขียนแทนด้วย -( -a )
    ในการหาผลลบของทศนิยมใด ๆ ใช้ข้อตกลงเดียวกันที่ใช้ในการหาผลลบของจำนวนเต็ม คือ

ตัวตั้ง - ตัวลบ = ตัวตั้ง + จำนวนตรงข้ามของตัวลบ
เมื่อ และ แทนทศนิยมใด ๆ a - b = a+จำนวนตรงข้ามของ หรือ a - b = a +( - b ) เช่น 5.01 - 2.32 = 5.01 + (-2.32) , ( -4.17 ) -1.32 = ( -4.17 ) + ( -1.32 )

ารหาผลคูณโดยใช้การบวกทศนิยมซ้ำ ๆ กัน
 การคูณทศนิยมด้วยจำนวนนับ อาจใช้วิธีเปลี่ยนการคูณให้อยู่ในรูปของการบวกทศนิยมนั้นหลาย ๆ ครั้ง โดยจำนวนของทศนิยมที่นำมาบวกกันเท่ากับจำนวนนับนั้นแล้วใช้หลักการบวกทศนิยม จะสังเกตได้ว่า การคูณนั้นก็เหมือนกับการนำเอาทศนิยมจำนวน ๆ หนึ่ง มาบวกกันให้เท่ากับจำนวนที่เราต้องการ เช่น
เราต้องการ หา 
เท่าของ 0.4 
0.4 * 4 = 0.4 + 0.4 + 0.4 + 0.4  = 1.6

  จะเห็นว่าได้ผลลัพธ์เท่ากัน ดังนั้นก็สามารถบอกได้ว่า การหาผลคูณโดยใช้วิธีการนำทศนิยมมาบวกซ้ำ ๆ กัน ให้เท่ากับจำนวนที่เอามาคูณได้ และอาจใช้วิธีตั้งหลักเลขและจุดทศนิยมให้ตรงกัน แล้วบวกกันโดยใช้หลักการเช่นเดียวกับการบวกจำนวนนับ

ทศนิยม และเศษส่วน 
6.1 การเขียนทศนิยมให้เป็นเศษส่วน
ตัวอย่าง จงเขียน 2.5 ให้เป็นเศษส่วน
วิธีทำ 2.5 = 2 กับ ใน 10 

6.2 การเขียนเศษส่วนให้เป็นทศนิยม
 1.) เศษส่วนที่มีส่วนเป็น 10 หรือ 100 หรือ 10 ยกกำลัง สามารถเปลี่ยนเป็นทศนิยมได้เลย เช่น 75/100 = 0.75 
 2.) เศษส่วนที่ไม่มีส่วนเป็น 10 หรือ 100 หรือ 10 ยกกำลัง ให้เปลี่ยนเป็นเศษส่วนที่มีส่วนเป็น 10 หรือ100 หรือ 10 ยกกำลังก่อน เช่น

 

http://nareenatchaona.blogspot.com/2013/09/blog-post.html

 

<< Go Back