การนำความร้อน คือการส่งผ่านความร้อนจากจุดที่มีอุณหภูมิสูงกว่าไปยังจุดทีมีอุณหภูมิต่ำกว่า มีวัตถุเป็นตัวกลางโดยวัตถุจะอยู่กับที่ แต่ความร้อนจุค่อยๆ แผ่กระจายไปตามเนื้อวัตถุนั้น เช่น เราจับแก้วน้ำร้อน ตอนแรกๆจะไม่รู้สึกร้อน แต่จะค่อยๆ ร้อนจนจับไม่ได้
วัสดุที่นำความร้อนได้ เรียกว่า ตัวนำความร้อนซึ่งเป็นวัสดุประเภทโลหะ คือ ตัวกลางที่ยอมให้พลังงานความร้อนไหลผ่านไปได้ดีเรียกว่า ตัวนำความร้อน ตัวนำความร้อนที่ดีได้แก่ วัตถุพวกโลหะ เช่น เงิน , ทองแดง , เหล็ก ฯลฯ
วัสดุที่ไม่นำความร้อน เรียกว่า ฉนวนความร้อน วัสดุที่เป็นฉนวนความ คือ ตัวกลางที่ไม่ยอมให้พลังงานความร้อนไหลผ่านหรือไหลผ่านได้น้อยเรียกว่า ฉนวนความร้อน ได้แก่ วัตถุพวก กระเบื้อง , แก้ว , ไม้ร้อน ได้แก่ ไม้ ผ้า พลาสติก
เราสามารถนำประโยชน์ของการนำความร้อนมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น ใช้อะลูมิเนียม เหล็ก เหล็กกล้า มาทำภาชนะสำหรับใช้ทำอาหาร วัตถุเหล่านี้สามารถนำความร้อนได้ดี จึงสามารถถ่ายโอนความร้อนให้อาหารได้เร็ว
ส่วนวัตถุที่นำความร้อนไม่ดี หรือเป็นฉนวนความร้อนนั้น เราใช้เป็นฉนวนสำหรับป้องกันไม่ให้ความร้อนมาถูกมือเรา เช่น ด้ามตะหลิวทำด้วยไม้ หูหม้อที่มีฉนวนหุ้ม
ส่วนภาชนะที่ใส่อาหารนิยมใช้กระป๋อง เพราะกระป๋องเป็นฉนวนความร้อน จึงมีการถ่ายโอนความร้อนได้ไม่ดี จึงช่วยเก็บความร้อนของอาหารให้ร้อนอยู่ได้นานด้วย
ผ้านำความร้อนได้ไม่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าหนาๆ จึงสามารถใช้ผ้าช่วยในการหยิบจับภาชนะร้อนๆ ได้ผ้าห่มนอนช่วยป้องกันการถ่ายโอนความร้อน จากร่างกายไปสู่สิ่งแวดล้อมจึงทำให้ร่างกายอบอุ่น
ปัจจุบันมีผู้ผลิตภาชนะที่ใช้หุงต้มเป็นพวกกระเบื้องและแก้วทนไฟวัสดุเหล่านี้ถ่ายโอนความร้อนได้ไม่ดีเท่าโลหะ แต่เหมาะกับการนำมาใช้กับแหล่งให้พลังงานบางอย่าง เช่น เตาอบ เตาไมโครเวฟ เพราะภาชนะดังกล่าวร้อนช้ากว่าอาหาร และเนื่องจากตัวภาชนะถ่ายโอนความร้อนได้ไม่ดีจึงทำให้ความร้อนจากอาหารถ่ายโอนไปสู่สิ่งแวดล้อมช้า อาหารจึงร้อนได้อยู่นาน
http://www.atom.rmutphysics.com/charud/oldnews/0/286/3/science/physics/index1.htm
|