ความหมายของคำสรรพนาม 
คำสรรพนาม คือ คำที่ใช้แทนคำนามที่ผู้พูดหรือผู้เขียนได้กล่าวแล้ว หรือเป็นที่เข้าใจกันระหว่างผู้ฟังกับผู้พูด เพื่อไม่ต้องกล่าวคำนานซ้ำ
ชนิดของคำสรรพนาม 
๑. บุรษสรรพนาม คือ คำ สรรพนามที่ใช้แทนผู้พูด แบ่งเป็นชนิดย่อยได้ 3 ชนิด คือ
๑.๑ สรรพนามบุรุษที่ ๑ ใช้แทนตัวผู้พูด
เช่น ผม ฉัน ดิฉัน กระผม ข้าพเจ้า กู เรา ข้าพระพุทธเจ้า อาตมา หม่อมฉัน เกล้ากระหม่อม
๑.๒ สรรพนามบุรุษที่ ๒ ใช้แทนผู้ฟัง หรือผู้ที่เราพูดด้วย
เช่น คุณ เธอ ใต้เท้า ท่าน ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ฝ่าพระบาท พระคุณเจ้า
๑.๓ สรรพนามบุรุษที่ ๓ ใช้แทนผู้ที่กล่าวถึง
เช่น เขา มัน ท่าน พระองค์
๒. ประพันธสรรพนาม คือ คำสรรพนามที่ใช้แทนคำนามและใช้เชื่อมประโยคทำหน้าที่เชื่อมประโยคให้มีความสัมพันธ์กัน ได้แก่คำว่า ที่ ซึ่ง อัน ผู้
๓. นิยมสรรพนาม คือ สรรพนามที่ใช้แทนนามชี้เฉพาะเจาะจง หรือบอกกำหนดความให้ผู้พูดกับผู้ฟังเข้าใจกัน ได้แก่คำว่า นี่ นั่น โน่น
๔. อนิยมสรรนาม คือ สรรพนามใช้แทนนามบอกความไม่ชี้เฉพาะเจาะจงที่แน่นอนลงไป ได้แก่คำว่า อะไร ใคร ไหน ได บางครั้งก็เป็นคำซ้ำๆ เช่น ใครๆ อะไรๆ ไหนๆ
๕. วิภาคสรรพนาม คือ สรรพนามที่ใช้แทนคำนาม ซึ่งแสดงให้เห็นว่านามนั้นจำแนกออกเป็นหลายส่วน ได้แก่คำว่า ต่าง บ้าง กัน
เช่น - นักเรียน"บ้าง"เรียน"บ้าง"เล่น
- นักเรียน"ต่าง"ก็อ่านหนังสือ
๖. ปฤจฉาสรรพนาม คือ สรรพนามที่ใช้แทนนามที่เป็นคำถาม ได้แก่คำว่า อะไร ใคร ไหน ผู้ใด สิ่งใด ผู้ใด ฯลฯ
เช่น - "ใคร" ทำแก้วแตก
- เขาไปที่ "ไหน"
หน้าที่ของคำสรรพนาม 
๑. เป็นประธานของประโยค
เช่น - "เขา"ไปโรงเรียน
- "ใคร"ทำดินสอตกอยู่บนพื้น
๒. ทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยค (ผู้ถูกกระทำ)
เช่น - ครูจะตี"เธอ"ถ้าเธอไม่ทำการบ้าน
- คุณช่วยเอา"นี่"ไปเก็บได้ไหม
๓. ทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็มหรือส่วนสมบูรณ์
เช่น - กำนันคนใหม่ของตำบลนี้คือ"เขา"นั่นเอง
- เขาเป็น"ใคร"
๔. ใช้เชื่อมประโยคในประโยคความซ้อน
เช่น - ครูชมเชยนักเรียน"ที่"ขยัน
๕. ทำหน้าที่ขยายนามที่ทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมของประโยค เพื่อเน้นการแสดงความรู้สึกของผู้พูด จะวางหลังคำนาม
เช่น - คุณครู"ท่าน"ไม่พอใจที่เราไม่ตั้งใจเรียน
- ฉันแวะไปเยี่ยมคุณปู่"ท่าน"มา

เว็บไซต์ : http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/phichit/neeranuch_i/sec02p02.html

|